วันศุกร์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

คำกลอนของนักการศึกษาผู้ยิ่งใหญ่ของไทย

            อันว่าห่วงใดใดในสงสาร

          จะเปรียบปานห่วงลูกหามีไม่

          แต่ถึงห่วงถึงรักสักปานใด

          ก็วางใจให้อยู่กับครูเอย


                                        พ่อแม่รักลูกแม้น   ดวงตา
                                   ยังส่งลูกรักมา  มอบให้
                                   ของเราสิรักษา  ดีสุด  รักเลย
                                   ของที่รับฝากไว้ จะต้องทวีคูณ



                 ขาสองต้องยืนหยัด     อยู่ในวัฒนธรรมไทย

            ตาสองมองออกไป          ยังโลกใหญ่มโหฬาร

                 หูสองว่องสดับ          ส่วนดีรับปรับกิจการ

            มือสองต้องทำงาน          รวมถึงด้านการวิจัยฯ

                        

                              อันสิทธิมนุษย์ชนข้อใดเล่า

                    จะเทียบเท่าสิทธิการศึกษา

                    ประกาศก้องต้องให้ความเมตตา

                    เสมอหน้าหนวกใบ้ไม่เว้นเอย


             กล้วยไม้มีดอกช้า             ฉันใด
        การศึกษาเป็นไป                   เช่นนั้น
        แต่ดอกออกมาคราวใด            งามเด่น
        งานสั่งสอนปลูกปั้น                เสร็จแล้วแสนงาม

                        การอบรมบ่มนิสัยให้ศิษย์นั้น
                   เพียงแต่วันละนาทียังดีถม
                   ศิษย์จะดีมีชื่อหรือล่มจม
                   อาจเป็นเพราะอบรมหนึ่งนาที

       มาทำงานบ้านไร่หัวใจเปิด

สิ่งประเสริฐคืองานด้านฝึกฝน

บรรดาครูเป็นผู้ที่อดทน

ที่จะยอมจำนนเป็นไม่มี

       เด็กชายหญิงนั่งนิ่งเหมือนผ้าขาว                              

พอเป็นหนุ่มเป็นสาวก็เปลี่ยนสี

มีปัญหาว่าจะให้อะไรดี

รัศมีจึงจะเปล่งเหมือนทองทา

ให้รักชาติศาสนามหากษัตริย์

เห็นแน่ชัดสามสีมีคุณค่า

แม้เด็กาจะมิได้อื่นใดมา

ได้แต่สามเสน่หาก็พอใจ


                            อันตึกงามสนามกว้างสร้างขึ้นได้
                            มีเงินหยิบโยนให้ก็เสร็จสรรพ์
                            แต่งามจิตใจกว้างนั้นต่างกัน
                            การอบรมเท่านั้นเป็นปัจจัย
     
กระจกเงาเรามีไว้ส่องหน้า
ให้รู้ว่าดีเด่นเป็นไฉน
ครูอยากรู้ตัวครูเป็นอย่างไร
เชิญดูเด็กที่ได้สั่งสอนมา

                                  จุดประทีปดวงใดก็ไม่เหมือน
                                สงเคราะห์เพื่อนผู้น้อยวาสนา
                                ชีวิตน้อยค่อยฟื้นตื่นขึ้นมา
                                ได้รับแสงเจิดจ้าจากตะวัน
 แหล่งที่มา  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น